วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

ความฉลาดของคนไม่ฉลาด

วันอังคาร 15 ก.ย. 2558

        วันนี้เริ่มต้นวันด้วยการตื่นสายจากที่เมื่อคืนลุยงานจนเกือบตี 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชีวิตตอนนี้ที่มีกิจกรรมเยอะมาก วันนี้เป็นวันแรกที่เอา Model ใหม่ไปใช้ สรุป dawn -3% แบ่งเงินถูกแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนจะดี แต่ไม่ได้ใส้ Maney Management เข้าไปแย่เลย พอลองเอา MoneyManagement คำนวนเข้าไป พระเจ้าช่วย ถ้าหลุดทุกตัวจะเสียหายเข้าขั้น 6% ของพอต ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเฉยๆแต่ตอนนี้ต้องมีการปรับปรุงอะไรบางอย่างแล้ว risk loss เยอะไป กลยุทธ์ต่อไปทะยอยขายปรับความเสี่ยงให้ลดลง

อันนี้คือภาพของลักษณะกาโตของพอตแบบที่อยากให้เป็นกับลักษณะการโตของพอแบบที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งการที่ Port drawdown ลงมากๆ เกิน 10% เอากลับไปยากมาก ขอเปิดเผยความลับสวรรค์หน่อย


อันนี้คือการ growth ของพอตจริงๆ (สีน้ำเงิน) กับ set index (สีส้ม) บันทึกเป็นรายสัปดาห์ โดยเทียบจากข้อมูลวันที่ 29 ธ.ค. 2557 เห็นได้ว่า drawdown ค่อนข้างสูงต้องปรับระบบใหม่ โดยพอตนี้มีการถอนเงินออกจากพอตเดือนละประมาณ 4-5% ในช่วง 2 เดือนที่ล่าสุด ปล.แท่งหนึ่งแทนระยะเวลา 1 สัปดาห์

ตอนนี้เพิ่มระบบดูความเสี่ยงของพอตก็ประมาณนี้


ใช้ excel เขียนง่ายๆ เน้นดูตรงขวาล่างอย่าให้เกิน 2 - 3 % คือ 2 ก็เยอะแล้ว ความพลาดของการปรับพอตคราวนี้คือ ไม่ลองทำ micro scale ก่อน ซึ่งนั่นคือความผิดพลาดของคนไทยเหมือนกันเวลาจะเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรใหม่เราไม่ค่อยกล้ากัน หรือทำก็เปลี่ยนทีนึงทั้งประเทศ ทำใน Macro scale ใช่มันเหมือนว่าการเปลี่นครั้งหนึ่งมันเห็นภาพชัดดี แต่ทำไมเราไม่ลองทำอย่างอื่นเป็น micro scale โมเดลเล็กๆง่ายๆก่อนเพื่อดูผลกระทบ บอกตัวเอง เผลอไปบ่นคนอื่นอีกจนได้

        เรื่องที่อยากจะพูดวันนี้เริ่มมาจากวันอาทิตย์นั่งคุยกับแม่เรื่องน้องๆรวมถึงเรื่องตัวเอง คือตอนนี้แม่เป็นห่วงน้องแบบ extremely ว่าจะเรียนที่ไหน เรียนยังไง เรียนอะไร จะเอาไงกับชีวิต แล้วมาจบลงที่เรื่องหัวอ่อน ซึ่งแม่ก็บอกว่าจ๊อบเมื่อก่อนเป็นคนหัวอ่อน ซึ่งในความหมายของแม่คือไม่ทันคน ผมเลยลองมานั่งคิดแบบจริงๆจังดู คนหัวอ่อน คือ คนโง่หรือคนที่ถูกเอาเปรียบในสังคมจริงไหม ?

        เวลาพูดถึงคนโง่ผมเห็นภาพคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วทำอะไรที่ตัวเองไม่คิดว่าจะทำให้เวลาปกติ อย่างเช่น คนเมาแล้วเก่งมากเลยไปหาเรื่องคนนู้นคนนี้  คนที่ทำอะไรแล้วไม่ค่อยคิดมั่งหล่ะ บางทีเราชอบเข้าใจกันว่าคนหัวอ่อนคนอื่นใช้อะไรก็ทำคือคนโง่ แต่เขาโง่จริงๆเหรอ?

        สำหรับผมบางทีเรานั่นแหละที่อาจจะเป็นคนโง่เสียเองที่ไปตัดสินเขาแบบนั้น เราไม่ได้อยู่กับเขาคลุกคลีกับเขา ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันตลอดแต่ไม่ใช่ทุกเวลาแน่ๆ ดังนั้นบางทีเราอาจจะมองไม่เห็นถึงวัตุประสงค์ของเขาว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร

        บางคนเขาทำแบบนั้นเพื่ออะไรบางอย่างในอนาคตแบบนี้เราเห็นได้บ่อยๆตามหนังแต่พอเจอในชีวิตจริงเรากับชะล่าใจ อย่าบางกรณีเขาอาจจะมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เรามทองไม่เห็นก็ได้นะ

        ผมเคยไปนั่งคุยกับเด็กเล็กๆที่โรงเรียน มีเด็กอยู่คนนึงมักจะถูกเพื่อนแกล้งเสมอ แต่เพื่อก็ไม่ได้แกล้งแบบรุนแรงมาก คือ แกล้งปกติ ที่น่าแปลกคือเขาไม่แกล้งหรือทำอะไรเพื่อนกลับ แถมบางครั้งเพื่อนยังมาให้ช่วยทำงานตลอด ผมเดินเข้าไปถามน้องเขาว่า
"ทำไมไม่เอาคืนหล่ะ สู้ไม่ได้เหรอ"
"ป่าวครับ ผมไม่อยากเห็นเพื่อนเจ๊บ" แล้วน้องก็ยิ้ม
วันนั้นผมคิดว่าสิ่งที่น้องตอบคงเป็นแค่ข้ออ้างของคนที่ไม่กล้าสู้ เหมือนโนบิตะที่ไม่กล้าสู้กับไจแอนท์
แต่ผมกลับพบว่า จริงๆ ผมอาจจะคิดผิด ถ้า goal ของโนบิตะคืออยากมีเพื่อนหล่ะ ถ้า goal ของโนบิตะคือมิตรภาพหล่ะ การยอมให้ไจแอนท์แกล้งเล็กๆน้อยเพื่อแลกมาด้วยมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ผมว่าโนบิตะเป็นนักลุนที่โครตฉลาดเลย เพราะเวลามีปัญหาอะไรก็มีไจแอนท์คอยช่วยไม่ใช่เหรอ ก็มีเพื่อนไม่ใช่เหรอ มันก็คุ้มค่ากับมิตรภาพไม่ใช่เหรอ

แล้วถ้าจริงๆเรื่องเมื่อหลายปีก่อนผมคิดผิดหล่ะ  น้องคนนั้นอาจจะเห็นคุณค่าของความสุขที่ได้ทำเพื่อคนอื่นมากกว่า การตอบสนองของสัญชาตญาณจากภายในใจหละ ณ ตอนนั้นความสุขคงสถิตอยู่กับน้องและความระแวงสงสัยคงสถิตอยู่ในใจพี่ แบบนี้ใครคือคนที่ฉลาดกว่ากันแน่นะ

ปล.เขียนโดยคนโง่ คนเราเกิดมาสิ่งแรกที่เราปารถนาคือความสุขไม่ใช่เหรอ แล้วนี่เราทำอะไรกันอยู่

1 ความคิดเห็น:

  1. แล้วความ #หัวอ่อน ของคุณหมีgrizzly ในสมัยเด็ก ที่แม่นิยามให้

    มีรายละเอียดคล้ายเด็กคนนั้น หรือ โนบิตะ บ้างหรือเปล่า

    ตอบลบ