ในแต่ละวันเรามีเรื่องเล่าเสมอ ขณะที่กำลังเล่านี้ ก็มีเสียงแม่เป็น sound effect คอยทำให้เรื่องเล่าเข้มข้นขึ้น
วันนี้เอางานไปคุยกับอาจารย์ว่าจะทำไงต่อ บวกกับอาจารย์ให้ไปลองเขียน interpaper มา นี่คือก้าวแรกของถนนเส้นนี้สินะ
กับครั้งแรกเราตื่นเต้นเสมอ
วันนี้ระหว่างทางกลับบ้านก็บังเอิญไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งที่พยามหาแต่ไม่เจอ (เขาบอกขายหมด) สักที โอกาสไม่ได้ลอยมาหาเราบ่อยๆมั้ง?
จริงๆรู้จักผู้ชายคนนี้ในฐานะนักแสดง พิธีกร
ปกติเวลาดาราดังก็มักจะมาออกพ็อกเก็ตบุ๊คเป็นของตัวเองกันทั้งนั้นแหละ
ไม่ได้คาดหวังอะไรกับหนังสือเล่มนี้มากนอกจาก ลองอ่านดูสักหน่อย
เมื่อเราไม่คาดหวัง เราก็จะไม่ผิดหวัง แต่มนุษย์เราก็อยู่ได้ด้วยความหวัง เพราะฉะนั้นเมื่อเราบอกว่าไม่คาดหวัง ความจริงคือเราคาดหวัง แต่เผื่อใจกับความผิดหวังไว้แล้ว
กับหนังสือเล่มนี้บอกเลยว่าเกินความคาดหวัง
ต้องชมพี่ฌอห์ณเลยว่าเขียนได้เพราะและสวยงามมาก เหมือนที่พี่โหน่ง aday บอก พี่ฌอห์ณไม่ได้เป็นดาราที่อยากเป็นนักเขียน แต่ผู้ชายคนนี้เป็นนักเขียนที่บังเอิญเป็นดารา
หนังสือแต่ละเล่มก็มักจะมีเรื่องราวของมัน แต่หนังสือไม่มีปาก มันจึงบอกเราไม่ได้ว่า "มีเรื่องสำคัญจะเล่าให้ฟัง" เราจึงต้องไปเปิดดูเอาเองว่าเรื่องราวที่เขาต้องการเล่าคืออะไร บางเรื่องอาจหวาน บางเรื่องอาจเศร้า บางเรื่องอาจเหงา แต่ทุกเรื่องล้วนให้มุมมองที่แตกต่างกับเรา และบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจก็คงเพราะ เรามองต่างมุมกัน ก็เท่านั้นเอง
เวลามีปัญหาก็มักจะหาเวลาว่างๆมานั่งอ่านหนังสือ เพื่อผ่อนคลายเสมอ
เพราะเวลาเราอ่านหนังสือเราจะถูกดึงออกมาจากปัญหาที่เราเจออยู่ไปสู่อีกโลกๆหนึ่ง ที่หนังสือได้สร้างไว้ แล้วเมื่ออ่านถึงจุดๆนึง เราจะพบว่าโลกที่อยู่กับโลกเราอ่านเป็นโลกใบเดียวกัน เพียงแต่มองต่างมุม และในบางมุมเรามักจะพบทางออกของปัญหาเสมอ
ขอบคุณหนังสือดีๆของ จินดาโชติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น