วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

29 July 2015

1 st Order [Tapac]

Buy : new high 

Product : Tapac
TF day
Entry@5.65 |SL@5.30|
Vol 15,000
Risk 5,250

Emotion
หงุดหงิด steaming มีปัญหา

Mistake
ควรได้ Ato ไม่ใช่หลัง ato ไป 2-3 นาที



วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

28 July 2015

1 st Order [Asimar]

Sell : หลุด stop loss

Product : Asimar
TF day
Exit@3.06  |SL@3.10|
Vol  30,000
Gain 1,500

Emotion
กล้าๆ กลัว

Mistake
ด้วยความที่กลัวมันดีดใส่หน้าเลยไม่กล้าตัดสินใจอะไรลงไป แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ขายไปเร็วกว่าที่คิด


2 nd Order [Asian]

Sell : หลุด stop

Product : Asian
TF day
Exit@3.68 |SL@3.80|
Vol  20,000
Loss 4,400

Emotion
ตื่นเต้น ตกใจ กล้าๆ กลัวๆ

Mistake
ด้วยความที่กลัวมันดีดใส่หน้าเลยพลาดการ stop ตามแผนที่วางไว้เลย




วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

27 July 2015

1 st Order

Condition
Sell >> หลุด ทำ new low

Detail
Product : S5001C1509A
TF 60h
Exit@0.72 | SL@0.75 |
Vol 100,000
Loss : 6,000

Emotion 
เฉยๆ  ได้ขาย ato ถือว่าโชคดี

Mistake
ต่อไปต้องรู้จักเทรน "The Trend is your friend" จำไว้


ภาพ set ดูประกอบ


2 nd Order

Condition
Sell >> จัดระบบใหม่

Detail
Product : NDR
TF day
Exit@4.22 | SL@4.16 |
Vol 40,000
Loss : 2,400

Emotion 
เสียดายนิดๆ แต่พอมาดูตอนหลัง รู้สึกโล่งๆ รอดตายสินะ ดีนะปรับพอตเร็วตอนเช้า

Mistake 
อย่ายึดติด "The Trend is your friend" จำไว้



หลังจากปรับ กลยุทธ์ ในการเกร็งกำไรใหม่โดยเทรด โดยอยู่ฝั่งเดียวกับเทรน และเข้าตาม momentum โดยมี rsi  เป็นตัวบอก momentum และ trend และใช้ new high เป็นตัวเข้า และ candlestick เป็นตัวออก

3 rd Order 

Condition
Buy : new high
Sell >>  50% candlestick (ปรับรายวัน)

Detail
Product : Asimar
TF day
Entry@3.03 | SL@2.88 | TP@??
Vol 30,000
risk 4,500

Emotion
กล้าๆ กลัว แต่เอาวะไหนๆก็ไหนละ

Mistake
ตั้ง stoploss ยาก ตัดสินใจซื้อไปก่อนที่จะตั้งเสร็จ ไม่ควรทำอย่างมาก


4 th Order

Condition
Buy : new high
Sell >>  candlestick

Detail
Product : Asian
TF day
Entry@3.90 | SL@3.78
Vol 20,000
risk 2,400

Emotion
รู้สึกว่าจั่วหัว เพราะ หึกเหิม จาก Asimar แอบลังเลเล็กๆ

Mistake 
ซื้อเร็วไป 1 ช่องมีโอกาสผิดพลาดมากกว่าซื้อ high


วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Market Update [July 24,2015]

SET

        ตลาดแบบ หมี มาก ช่วงนี้ต้องใจเย็นๆเลย อย่าไปแตะ อาจจะเกิด new low ก็เป็นได้

เอาไงต่อดี  หลีกเลี่ยง set และหุ้นตัวใหญ่ละกันนะ


แต่ตลาดแบบนี้ก็ยังมีหุ้นที่ดีอยู่ ไม่มากก็น้อย

ส่งการบ้านหน่อยดีกว่า

Asian


Asimar


Kaset


Siam


Tapac


The


วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

24 July 2015

1 st Order

Condition 
Sell >> falling windown

Detail
Product  S5001C1509A
TF 60
Exit@0.76
Vol  80,000
Loss : 4,800

Emotion
ตกใจ ไม่พร้อม งัวเงีย

Mistake
ตื่นสาย ไม่มีสติ


2 nd Order

Condition
Buy >> long lower shadow + double bottom

Detail
Product  S5001C1509A
TF 60 
Entry@0.78 SL@0.75 TP@0.85
Vol 100,000
Risk 3,000

Emotion 
กล้าๆ กลัว

Mistake 
ใจร้อนไปหน่อย



วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

23 July 2015

1 st Order

Condition
Sell >> หลุดจุดกลับตัว |fail reversal price pattern|

Detial
Product : THANA
TF day
Exit@3.30
Vol   25,000
Loss : 3,000

Emotion
ใจไม่คม ไม่กล้าตัดใจตอนมันเริ่มหลุด กลัว ..

Mistake
ความไม่กล้าตัดสินใจ กับการไม่เตรียมตัวรับกับราคาที่จะต้องเกิดขึ้น


2 nd Order

Condition
Buy : Fibo R
sell >> Price pattern + Tailing stop

Detail
Product : NDR
TF day
Entry@4.26 |SL @ 4.16|
Vol 15,000
Risk : 1,500

Emotion
ใจเย็น

Mistake
จดจ่อ focus กับตัวหุ้นมากไป



วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

22 July 2015

หลังจาก Over Trade กับ NDR มา เลยต้องกลับมาจริงจังกะการสร้างพอตใหม่อีกแล้ว ..ค่าเรียนคอส over trade นี่แพงมากเลย เป็นแสนแล้วเฉพาะคอสเดียว ตลาดสอนมากี่รอบแล้วไม่เคยจำ ครั้งที่แล้วที่พอตพังก็เป็นเพราะทำอย่างนี้ .... ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด ค่อยๆ ทำ อย่า OverTrade

ทำการหาความเสี่ยงของพอต โดยใช้ 3%  risk of port ตอนนี้ทั้งพอตเหลือ 264 k (loss จาก overTrade 50k) แต่ 3% คิดจาก 250K  = 7,500 โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็นอย่างนี้

20% เป็นการลงทุนกับตลาด dw set50 เพื่อเกาะอารมณ์ตลาด

40% หุ้นแบบ Trend Follow

40% หุ้นแบบ lock target

เดี๊ยวดูว่าแบบนี้จะ work ไหม แบ่ง risk เท่าๆกัน

1 st Order 

Condition
Buy : fibo prj ทับกันหลายๆอัน , price pattern (pin bar)
Sell >> | 1460-1470 ใช้ price pattern |

Detial
Product : S5001C1509A
TF 60
Entry@0.82  | SL@0.79 | TP@0.95-0.99
Val : 80,000
Risk = 2,400


Emotion
ตื่นเต้นบวกกับไม่แน่ใจว่าจะเป็นการกระโจนเข้ากองไฟรึป่าวแต่ที่ใจแข็งเข้าไปได้เพราะมีการวางแผน risk ค่อนข้างดี

Mistake
ควรรอให้จบแท่งก่อนค่อย Take action


2 nd Order


Condition
Buy : Fibo Retracement 61.8 + volume 
Sell >> | ใช้ price pattern + tailing stop 3 belt |  

Detial 
Product : THANA
TF day
Entry@3.42 | SL@3.34 | 
Vol : 25,000
Risk = 2,000

Emotion
ตอนที่เข้าซื้อยังไม่จบวันแต่เกิด Piercing แต่ดันมาปิดแบบ Gravestone doji แต่ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่

Mistake
ไม่ค่อยละเอียดในการใส่ออเดอร์ + มือลั่นไปกด buy (save pin) ไม่ตั้งใจซื้อ 


3 rd Order


Condition
Buy : Fibo Retracement 78.6 wave 1
Sell >> | ใช้ price pattern + tailing stop 3 belt |  

Detial 
Product : NDR
TF day
Entry@4.28 | SL@4.16 | 
Vol : 25,000
Risk = 3,000

Emotion
ติดใจ อยากชนะ กลัวพลาด ตอนนั้นใกลเจุด Stoploss มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเมื่อ dw s50 วิ่งมาเป็นบวก 

Mistake 
หมกมุ่นกะการล้างแค้นมากไป แต่ถือว่าโอเคเพราะมีการควบคุม risk ไว้ 



วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Market Update [ July 17 , 2015 ]

SET 

        ตลาดตอนนี้คิดว่ากำลังฟอร์มตัวซ้ำรูปแบบเดิม (บนความน่าจะเป็นนะครับ)  C(สีชมพู) เป็นสัดส่วนการขึ้น เทียบจากระยะ A ไป B (สีชมพู) เป็นสัดส่วนระหว่าง 50% กับ 61.8%

ซึ่งตรงกับ สัดส่วนของ C (สีส้ม) เทียบจาก A ไปหา B (สีส้ม) เป็นสัดส่วนระหว่าง 50% กับ 61.8%

เลยคิดว่ามีความน่าจะเป็นที่จะเกิดรู้ทรงเดียวกันค่อนข้างสูง จาก สีชมพู เห็นได้ว่า มีลักษณะเป็น Butterfly Pattern  โดยมีปีบนอยู่ที่ A และ E สีชมพูที่สัมผัสเทรนไลน์เส้นบน และมีปีกล่างที่ B และ D ที่สัมผัวเทรนไลน์เส้นล่าง



ต่อมาเกิดการรีแพทเทิน สีส้ม เริ่มเห็น ตรงตำแหน่ง C ที่เริ่มมีสัดส่วนที่ซ้ำกัน เลยตั้งสมมติฐานได้คร่าวๆว่าอาจจะเกิดรูปแบบที่ซ้ำกัน คือจะมีการสัมผัสเทรนไลน์บนสองจุด คือ A และ E สีส้ม ส่วนเทรนไลน์ล่างน่าจะมีการทดสอบสองครั้งคือบริเวณ B และ D จากนั้นต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อว่า  ผีเสื้อ 2 ตัวนี้ จะพาเราบินไปสวรรค์หรือนรค เพราะมันส่งผลต่อหุ้นรายตัวพอสมควรเลย

มีคนเคยถามว่าเวลาซื้อหุ้นผมดูอะไรบ้าง กราฟอย่างเดียวเหรอ บอกเลยว่าไม่ ข้อแรกดูความเสี่ยงที่พอตรับได้ก่อน ตามลิ้งค์นี้เลยครับ http://grizzlybear-trader.blogspot.com/2015/07/trade-record-money-management.html จากนั้นค่อยมาเลือกหุ้นกัน ตัวแรกที่ดูคือกราฟ ทรงแพทเทิน (ตั้งค่าสแกน ไม่เคยได้ตามที่หวังเลยครับ) ก็ต้องถึกๆหน่อยนะครับ

จากนั้นก็ดูขนาดของบริษัท >> ผมชอบเล็กๆนะ มันแรงดี

จากนั้นก็ดู Free float >> คือ สภาพคล่อง ผมชอบน้อยๆนะ มันบอกเป็น เปอร์เซนต์  % เพราะถ้ามากหมายถึงอยู่ในมือรายย่อยเยอะหุ้นจะหนัก ขึ้นช้าลงช้า แต่ก็ต้องดูเทียบกับ Market Cap. ของบริษัทด้วยว่าใหญ่ไหม ถ้า free float น้อยแต่ Market Cap. มากผมก็ไม่ค่อยสนเหมือนกัน

ตัวอย่างวันนี้เป็น 4 ขุนพลที่ผมเฝ้าติดตามอยู่ช่วงนี้นะครับ ตัวแรก คือ .....

CCP 

มี volume เข้าถือว่าโอเคผ่าน มีการเบคร high มีการพักตัว


หาความสัมพันธ์ดิ

การลง จาก 1 ไป 2 มีการเด้งที่ 3 สัดส่วน ประมาณ 50% ของ 1 ไป 2


จากนั้นการลงจาก 3 ไป 4 มีการเด้งที่ 5 สัดส่วน ประมาณ 50% ของ 3 ไป 4 อะไรจะพอดีขนาดนั้น 



จากนั้นมีการยก low แล้วไม่ลงไปทำ new low ต่อ แสดงว่ากราฟเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นล่าสุดราคาเบรค high ที่ 5 ได้ 



โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีการพักตัวบริเวณ เส้นสีส้ม คือ เป็น high เก่า ที่เบรคมาด้วย แต่ถ้าหลุดก็ตามลำดับ ถ้าอยากให้มีการขึ้นแรงๆก็ต้องภาวนาให้ลงมาพักแถว เส้นแดงหรือขาว คือ พักลึกๆ จะไปได้ไกล ต้องให้กราฟเฉลย พวกแท่งเทียนไปหัดดูไว้นะคับ สำคัญ ความคิดเห็นน่าจพแถวส้มๆ เนี่ยแหละ

ต่อมา  ดูขนาดของบริษัท  set  มีบอก


3,000 ล้าน ไม่ใหญ่เกินไป ไปไกลได้  ดู free float ดิ  เวปนี้เลย freefloat

ประมาณ 50% ถือว่าปานกลางค่อนไปทางเยอะนะเนี่ย free float ทำให้ตัวนี้ดูน่าสนใจน้อยลง

ให้กราฟ 7/10 ได้ทรงสวย
Market Cap. 6.5/10 หาได้ไม่ยาก
Freefloat 4.5/10 เยอะไป

โดยรวมให้ 6/10 ให้ทรงสวยนะเนี่ย

ดูตัวต่อมาก่อนดีกว่า

NCH 



อยู่ช่วงนี้ vol เริ่มเข้าน่าจะมีอะไรแปลก แถมมีการเบรค high มาด้วย มาดูความสัมพันธ์กันก่อนดีกว่า


ขึ้นจาก 1 ไป 2 ลงมาที่ 61.8 % พอดีเป๊ะ  อย่างนี้มีโอกาสไปแรงได้


จากนั้นลองมองภาพใหญ่ จาก A ไปหา B ลงมา C คิดว่า น่าจะไปชน 1.80 คือแถว 61.8% พอดี (มีโอกาสนะครับ) ถ้าซื้อเลยก็ได้แต่ตั้ง stop เพื่อไว้แถว 1.80 ต่ำกว่าได้นิดหน่อย น่าจะพอเพราะแท่งเทียนเป็นการรอ การ confirm วันจันทร์ น่าสนใจ


ขนาด 2,000 ล้านถือว่ากำลังพอดี ด้วยขนาดทำให้น่าสนใจกว่า CCP  เฉยเลย + แพทเทิน

 เห่ย อะไรมันจะน่าสนใจปานนั้น มีรายย่อยถือแค่ 27% แปลว่าเวลามีคนต้องการไม่นานราคาก็จะไปเร็วมาก

กราฟให้ 8/10 สวยมาก
Market Cap. 7.5/10 น่าสนใจ
Freefloat 10/10 กลัวอย่างเดียวเข้าละออกไม่ได้ 555

โดยรวม  8.5 สวยทุกอย่าง 

ตัวต่อมา

NDR 


การที่อยู่ๆ vol ทะลักเข้ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ตัวนี้ยังไม่เบรค high แทบจะหาความสัมพันธ์อะไรไม่ได้ แต่ก็มีบางอย่างที่น่าสนใจ


ก่อนหน้านี้มีการพักตัวแถว 50%  บริเวณ C  แล้วราคาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว


ในภาพปัจจุบัน เห็นไๆด้ว่าอาจจะเกิดการพักตัวแถว C ถือว่าสนใจแต่เนื่องจาก vol มากเป็นพิเศษอาจจะทำให้จินตนาการได้ว่าอาจจะเกิดการเบรค high


Market Cap. ถือว่าน่าสนใจมาก ไม่รู้เป็นความหลงผิดอะไรนักหนา ทำให้ชอบ หุ้นที่มี Market Cap. ต่ำๆ


ส่วน Freefloat ก็น่าสนใจมากๆ ถ้าเทียบเป็นเงิน ถือ ว่าน้อยกว่า NCH อีกนะเนี่ย

ทรงกราฟ 7/10 การพักตัวค่อข้างชัด
Market Cap. 10/10 น้อยมาก
Free float 9/10 น้อยมาก

โดยรวม 9/10 สวยในจินตนาการ + 0.5 ให้กับความ bias ส่วนตัว  

ตัวต่อมา คือ

THANA 


อยู่ๆ vol ก็เข้า มัน จะมีอะไรดีๆไหมนะ ดูเหมือนจะพักตัว 1/3 พอดี ที่น่าสนใจจะทำ new high ที่ 4.08 ได้ไหม


ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มากทำให้โอกาสที่จะสิ่งมีค่อนข้างสูง มีข่าวแว่ว เรื่องการ take over อีกถ้าเล่นกันจริงนะราคากระชูด ต้องเฝ้าไว้


ด้วยความที่ขนาดไม่ใหญ๋มากแล้ว freefloat ระดับนี้ถือว่าน่าสนใจมาก  พอๆกับ NDR เลย

กราฟ 7/10 กลางๆค่อนไปทางสวยมีการพักตัวแถว 1/3 พอดี
Market Cap. 10/10 เล็กดี
Freefloat 9/10 น้อยจริงๆเลย

โดยรวมให้ 8.5/10 

ตัวต่อมา คือ

THANI


ตัวนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากแท่งเทียนที่เกิดบริเวณปลายสุด (วงกลมสีเหลือง) ถ้าราคาไปยืนเหนือ 3.24 น่าจะมีอะไรดีๆให้เล่นกันได้อีกตัว


7,000  ถือว่าใหญ่เลยหล่ะ

 แต่ด้วยความที่ มี Freefloat ค่อนข้างต่ำเนี่ยทำให้ความน่าสนใจของมันเพิ่มมากขึ้น ถ้าเทียบเป็นเงินเนี่ยตัวนี้น้อยกว่า CCP อีกนะ ขนาดของ FreeFloat เนี่ย

ตัวนี้ยังไม่ขอสรุปคะแนนแล้วกันเพราะว่ายังไม่ถึงเวลาอันสมควรของมัน

แต่ การ วิเคราะห์วันนี้ อาจจะถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะจบ ขอให้โชคดีนะครับ

อย่าลืม stoploss และ สติ ขอให้โชคดีในการลงทุน




วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Trade Record ตอน [ Money Management แบบบ้านๆ ]

Money Management ?

         Money Management หรือ ที่เราเรียกติดปากกันว่า MM จริงๆ แล้วมันคืออะไร สำคัญต่อการเทรดอย่างไง ตอนที่ผมเข้าตลาดมาได้สักพัก ผมเคยได้ยินว่า ในการอยู่รอดในตลาดต้องประกอบไปด้วย 3 เสาหลักถึงทำให้อยู่รอดได้ คือ ความรู้ ในที่นี้หมายถึงทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน อย่างที่สอง การบริหารเงินหน้าตัก และอย่างสุดท้ายคือใจ โดยสัดส่วนหรือความสำคัญของทั้งสามเสานี้ก็ไม่เท่ากันด้วย โดยขอเริ่้มที่เสาต้นแรกก่อน คือ 

-ความรู้ มีความสำคัญกับการอยู่รอดแค่ 10% เท่านั้นเอง 
ตอนแรกที่ได้ฟัง เถียงหัวชนฝาเลยว่าเป็นไปไม่ได้ เมื่อเรามีความรู้มีจังหว่ะการเข้าที่ดี ออกที่ดี ก็น่าจะทำให้เราเทพละหนิ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราจะเรียนรู้และเข้าใจเองว่า เออ มันจริง นะ ความรู้ของคุณมันไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

-เสาต้นที่สอง MM มีความสำคัญต่อการอยู่รอดถึง 30% 
การบริหารเงินหน้าตักสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ดีนะที่เรามี (ตอนนั้น MM มีแค่ ถ้าหุ้นเราตกเกิน 5% ต้องรีบขายนะ คือ เป็น MM เด็กอนุบาลมากแต่ก็ยังดีที่ตอนนั้นมีแล้ว) สบายละเรา อยู่รอดแน่ แต่แบบล่อแล่

-เสาต้นสุดท้าย คือ ใจ  มีสัดส่วนถึง 60%
แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันเพราะ มันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งเกิน ทั้งตัวผู้พูดเองก็ยังเข้าไม่ถึงขนาดนั้น 

เราพูดถึงเสาสามต้นที่จำเป็นต่อการเทรดแล้ว เราต้องเข้าใจอย่างนึงว่า การลงทุนในตลาดหุ้น แบ่งสายหลักๆแบ่งเป็นสองสาย (หลักๆ) ได้แก่ 

1 สายพื้นฐาน ดูงบ ผลประกอบการ ดูอนาคตของกิจการ ผมจะไม่พูดถึง

2 สายเทคนิค พวกดูกราฟ ดูราคาทั้งหลาย อันนี้แหละที่ผมสนใจจะมาพูดกันว่า MM จำเป็นอย่างไร

เราต้องเข้าใจกันอย่างนึงก่อนว่า สายเทคนิค ทุกๆอย่างที่เราเรียนมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น indycator ที่เทพขนาดไหน แท่งเทียนที่ทรงพลัง หรือเทคนิค vol ในตำนาน หัวใจของมัน คือ 


"เราทำกำไรอยู่บนความน่าจะเป็น" 

โดยใช้ข้อมูลทางสถิติ ดังนั้น แม้เราจะทำถูกผลลัพธ์ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เป็นไปตามที่คิดได้ ต้องท่องเอาไว้ว่ามันคือความน่าจะเป็น 

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีหลายๆเหตุการณ์ในชีวิตเราที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของความน่าจะเป็น เช่น การยื่นข้อเสนอทางธุรกิจ หรือ การตอบคำถามในขณะสัมภาษณ์ สิ่งที่เราควบคุมได้ คือ การเตรียมตัว ไม่ใช่ผลลัพธ์ เราเตรียมตัวให้ดีที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสที่เราจะได้รับผลลัพธ์นั้น จริงหรือไม่จริง ลองคิดดูดีๆ ก่อนที่เรื่องความน่าจะเป็นจะยาวไปมากกว่านี้ ขอสรุปเลยว่า 

แม้เราจะมีวิธีการเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม มันก็แค่เพิ่มความน่าจะเป็นในการชนะให้เราเท่านั้นเอง 

It is Game. 

        ผมกำลังจะบอกว่า สำหรับผมการเทรด คือ เกม เกมๆนึงที่ต้องเล่นกันยาวๆ และเป็นเกมที่แฟร์มากด้วย เพราะมันไม่จำกัดว่าคุณต้องใช้วิธีไหน อยากเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ขอแค่ตอนสุดท้ายอยู่ให้รอดก็พอ ดังนั้นความเชื่อหรือจะเรียกว่า ศรัทธา ในการอยู่ในตลาดของผม มีเพียงอย่างเดียว คือ อยู่ให้รอด  มันไม่มีประโยชน์เลยที่ได้กำไรมากมายจากตลาดแล้วสุดท้ายต้องคืนกลับไปหมด 

ทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดได้ ผมคิดว่า MM คือคำตอบนะ ตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีพอตผมบวกอยู่ 100% กว่าๆ มีคนถามว่าทำอย่างไร มีเทคนิคอะไร ผมตอบไปด้วยความจริงใจมากๆว่า แค่โชคดี สิ่งที่ทำให้พอตมีกำไรมากๆ สำหรับผม แค่โชคดีจริงๆ ผมรู้ไม่ต่างจากทุกคนในตลาด แต่สิ่งที่ทำให้รอดมาได้ในสภาวะตลาดแบบนี้ คือ ผมมีวินัยในการใช้ MM 

MM แบบบ้านๆ 

        หลังจากที่ผมศึกษาเรื่อง MM มาระยะนึงต้องบอกก่อนว่ามีหลายแบบมากทั้งแบบง่ายทั้งแบบยากที่จะยกตัวอย่างในวันนี้ผมก็จำชื่อไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าอะไร เพียงแต่มีโอกาสได้หยิบยืมมาใช้แล้วเห็นว่าคล่องมือ และทรงพลังดี เลยจะมา บอกต่อๆกัน

อย่างแรกผมต้องดูฐานของพอตก่อนว่ามีขนาดเท่าไร เปรียบเสมือนแม่ทัพตรวจตรากำลังพล

อย่างที่สอง เอาไปเสี่ยงเท่าไรดี โดยปกติผมจะใช้ 2-5% ของพอต ไม่ค่อยเกินนี้ในแต่ละครั้ง ยิ่งพอตใหญ่ยิ่งใช้น้อย 

อย่างที่สามหาหุ้นที่ต้องการจะเข้า แล้ววางจุด STOP LOSS 

อย่างสุดท้ายหา Position sizing ว่าควรเอาไปเสี่ยงเท่าไร เปรียบเหมือนการวิเคราะห์ของแม่ทัพว่าจะยกไปบุกข้าศึกเท่าไรดี ยกไปตีเขามากเดี๊ยวเมืองหลวงก็ไปปลอดภัย ยกไปน้อยก็ตีไม่สำเร็จ 

ต่อไปขอยกตัวอย่างการใช้ MM นะครับ 

สมมติผมมีพอตขนาด 100,000 บาท 

Step 1 หาขนาดของพอต คือ 100,000 บาท 

Step 2 หาความเสี่ยงที่รับได้แบบสบายใจ (อันนี้เอาที่สบายใจ) สำหรับผมใช้ 4% เพราะเวลาไปกินข้าวกะสาวทีนึงก็ประมาณ 1,000 นึง เท่ากับการอดไปกินข้าวกะสาว 4 ครั้งเอง

4% ของ 100,000  =  100,000 x 0.04  = 4,000 บาท  คือควาเสี่ยงที่เรารับได้ (ทั้งพอตนะ)

Step 3.1 สมมติ ซื้อ หุ้นตัวเดียว คือ หุ้น A ที่ราคา 5 บาท แล้วเห็นว่า 4.50 เป็นจุดที่มีนัยสำคัญ (สมมตินะ) เลยวาง stop loss ไว้ตรงนี้ 

เราสามารถหา Position sizing ได้จากตรงนี้เลย คือ 

ความเสี่ยงของหุ้นตัวนี้ = ราคาซื้อ - ราคาขายขาดทุน = 5.00 - 4.50 = 0.50 ต่อหุ้น

เรารับความเสี่ยงต่อพอตได้ 4,000 

ดังนั้นเราซื้อหุ้นได้  = ความเสี่ยงของพอต/ความเสี่ยงต่อหุ้น = 4,000/0.50 =  8,000 หุ้น 

ใช้เงินทั้งหมด 8,000 x 5.00 = 40,000 บาท 

เงินเหลือทำไง ... ตอบ  ใจเย็นๆรอให้หุ้นขึ้นก่อนแล้วเราก็ขยับ stop loss ตามขึ้นไป ถ้า stop loss ขยับถึงทุน หมายความว่าเราขายได้ไม่ขาดทุนแล้วใช่ไหม ก็แสดงว่าเราได้ความเสี่ยงของพอตเราคืน 4,000 เราก็เอาไอ้ 4,000 ไปหาหุ้นซื้อใหม่ แค่นั้นเอง 

สมมติต่อว่า ถ้า stop loss ยังไม่ขยับถึงทุนแต่ขยับขึ้นสูงกว่าเดิมแล้ว เช่น ขยับมาอยู่ที่ 4.75 แทนที่จะเป็น 4.50  แสดงว่าถ้าเราขาดทุนกับหุ้นตัวนี้เท่าก็ขาดได้เท่ากับ    (5.00 - 4.75) x 8,000 = 2,000 บาท
ดังนั้นแปลว่าความเสี่ยงของพอตเราได้คืนมา 2,000 บาท เราเอาไอ้นี่ไปหาหุ้นซื้อต่อได้ แต่ตอนคิดความเสี่ยงของพอตต้องใช้ 2,000 คิดนะห้ามใช้ 4,000 เด็ดขาด (ก็เราได้ความเสี่ยงคืนมา 2พัน ไม่ใช่ 4พัน นี่คับ) 

3.2 สมมติ เจอหุ้น เด็ด พร้อมกัน 2 ตัวจะทำไงดี คือ A ที่ราคา 5.00 บาท cutloss 4.50 บาท และ หุ้น B ราคา 2.00 บาท cutloss 1.90 บาท 

กรณีนี้คิดก่อนเลยว่า จะแบ่งความเสี่ยงของพอตไปให้ A เท่าไร B เท่าไร  ง่ายๆ คือ แบ่งเท่ากัน ได้ความเสี่ยงมาจากพอต 4,000 ให้  A  2,000 และ  B 2,000 

หา Position sizing ของ A    risk =  5.00 - 4.50  =  0.50  

Position sizing of A = ความเสี่ยงที่ได้รับ / ความเสี่ยงต่อหุ้น = 2,000/0.50 = 4,000 หุ้น

หา Position sizing B risk = 2.00 - 1.90 = 0.10 

Position sizing of B = ความเสี่ยงที่ได้รับ / ความเสี่ยงต่อหุ้น = 2,000/0.10 = 20,000 หุ้น

สรุปใช้เงินไปทั้งสิ้ง (4,000 x 5.00) + (20,000 x 2 ) = 20,000 + 80,000 = 100,000 

เห็นได้ว่าการใช้เงินแตกต่างกันอย่างชัดเจน 

วิธีนี้จะทำให้เราลงทุนในเกมที่เสี่ยงน้อย และลงทุนในเกมที่มีโอกาสชนะมากโดยไม่ใช้ความลำเอียง 

เห็นไหมครับไม่ยากเลย 

หลายคนยังบอกว่า โอ๊ย ยาก ใช้แบบเดิมดีอยู่แล้ว ง่ายดีออก 

ผมก็คงต้องตอบเขาไปว่า เอาที่สบายใจเลยครับ

ถ้ายังคงเล่นแบบมือสมัครเล่นก็เป็นได้แค่มือสมัครเล่น 

ถ้าอยากเป็นมืออาชีพก็ต้องรู้จักใช้วิธีของมืออาชีพได้แล้วครับ 

แล้วอีกอย่าง ขอบคุณนะครับที่เป็นมือสมัครเล่นให้ไม่งั้นตลาดเล่นยากกว่านี้ผมจะลำบากเอา

ปล. เคยได้ยินใครบ่นไม่รู้ว่า อยู่อย่างหมา ก็เป็นได้แค่หมา ถ้าวันนี้รู้ตัวว่าเป็นหมา ต้องเปลี่ยนที่ความคิดก่อน ต้องคิดอย่างสิง กินอย่างสิง แล้วอยู่อย่างสิง ถ้าความเชื่อมั่นคง หมาก็เป็นสิงได้ 




อย่าด่าผมนะผมจำมาเฉยๆ 



วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

16 July 2015

News

        5 สิ่งที่ต้องติดตามในการประชุมของ ECB ประจำเดือนนี้

1. Emergency Loan (เงินกู้ฉุกเฉิน)        
        เป็นการอัดฉีดสภาพคล่องในกับระบบการเงินของกรีซขณะนี้ ELA = Emergency Liquidity Assistance ซึ่งจะพิจารณาเมื่อมาตรการรัดเข็มขัดที่ทางกลุ่งเจ้าหนี้ยื่นต่อกรีซ ได้ผ่านสภากรีซเท่านั้น ซึ่งพึ่งผ่านไปเมื่อคืน

2. July 20
        เป็นวันที่กรีซจะต้องชำระค่าพัทธบัตรเป็นเงิน 3,500 ล้านยูโร + ดอกเบี้ย คืน ECB โดยมี ELA เป็นตัวประกัน ที่น่าสนใจ คือ กรีซไม่มีเงินแล้วจะเอาที่ไหนมาชำระ ต้องคอยดูการประชุมสุดยอดผู้นำยูโรว่าจะส่งมาตรการฉุกเฉินอะไรออกมาไหม - ออกมาแล้วตัวเลขไม่แน่ใจอาจจะ 7,000 ล้านยูโรก่อน

3. ECB and Politics
        การตอบคำถามของ ECB เมื่อถูกถามถึงความชอบธรรมในการออกนโยบายทางการเงินว่ามีความเป็นธรรมไหม (ในกรณีกรีซ)

4. Monetary Policy
        เนื่องจากมีความกังวลจากคนทั่วไปว่าปัญหาของกรีซจะลามไปถึงประเทศอื่นในยูโรหรือไม่ ทาง Draghi ก็บอกว่าไม่ต้องห่วง เรายังกดดอกเบี้ยให้ต่ำอยู่แล้วก็จะพิมเงิน (QE) ออกมาถึงกันยายนปีหน้าเป็นอย่างน้อย

5. Economic Outlook (แนวโน้มเศรษฐกิจในยูโร)
        จากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 ค่อยๆฝื้นตัวอย่างช้า "อย่างช้าๆ" ปัญหาที่สำคัญ คือ เงินฝืด ซึ่งอัตราเงินเฝ้อล่าสุดคือ 0.2% จากที่ ECB ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 2% ก็ค่อยๆปั่นกันไป

Stock Market

        วันนี้จัด NDR มาตั้งแต่เช้าๆ พอสายๆก็ไปยืนแถว 5 บาทได้อย่างสบายใจ แต่ก่อนปิดเท่านั้นแหละโดนทุบลงมา low ของรอบที่ 4.64 ต้องลุ้นว่้าพรุ่งนี้จะยืนไหวไหม

Summary

        วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะเขียนบล็อก ... แบบนี้ ตอนแรกที่เขียนคิดว่าอยากจะคุยกับตัวเองเฉยๆ พอเขียนไปเขียนมาเริ่มคุยกะตัวเองรู้เรื่องมากขึ้น ทำให้การคุยกับตัวเอง เริ่มไม่สนุกแล้ว อยากจะทำอะไรให้ตื่นเต้นกว่านี้อีกหน่อย คือ เปลี่ยนจากการอัพเดททุกๆวันเป็นการทำเป็นเรื่องๆ เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจดีกว่า เพราะการทำแบบนี้เรื่องราวมันไม่ค่อยต่อเนื่องแล้วก็จับสาระไม่ค่อยได้ เลยอยากจะเขียนเป็นเรื่องยาวๆมากขึ้น จะพยามเขียนอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้งนะครับ ยินดีที่ติดตามจะพยามทำให้ดีขึ้นนะครับ  Blog สุดท้ายที่จะเล่าเรื่องของตัวเองอันที่ 100 พอดี รู้สึกดีใจที่ผ่านมาได้ตั้ง 100 วัน ^ ^ ต้องโตขึ้นแล้วสินะ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

15 July 2015

News

        วันนี้ที่ Athen มีการถกเถียงกันระหว่างที่ Tsipras นายกของกรีกนำมาตรการรัดเข็มขัดเข้าที่ประชุม ต้องติดตามกันว่า Tsipras จะกล่อมรัฐสภาสำเร็จไหม 85 billion euro

        Yellen ประธาน Fed ออกมารายงานว่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ เพราะอัตราการว่างงานลดลง 

Stock Market

        2-3 วันนี้ตลาดไม่ไปไหนเลย 


NCH หลุดจ้าาา 


Synex ก็หลุดจ้า ขายตามระเบียบ 


ต่อไปต้องเปลี่ยนที่ focus เป็นที่ AKR กับ NDR แทนโดย NDR กำลังเฝ้าหาจังหว่ะ เข้า อยู่


AKR วาง stop loss ที่ 2.14


THANA ตัวนี่น่าจะ rally ได้


Summary

        วันนี้เป็นการสอบสัมภาษณ์ ที่แย่มาก  แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ....