วันนี้เป็นวันที่ต้องตื่นเช้าที่สุดตั้งแต่มาเลย
(ไม่นับวันแรกที่ลงจากเครื่องเพราะไอ้วันนั้นไม่ได้นอน)
เพราะว่าอาจารย์ดันนัด 8 โมงครึ่งดังนั้นก็เลยให้เจมปลุก 7 โมง
รู้สึกว่าวันนี้เจมตื่นคนแรกของกลุ่มได้มั้ง ... เร็วกว่าสาวๆอีก
ปกติสาวๆจะตื่นไวมาก
เจม (รูมเมท) ไว้ใจได้จริงๆ
มื้อเช้าวันนี้มาไรกินที่ OASIS เป็นร้านค้าบริเวณสถานีรถไฟ Hankyu Rokko อารมณ์ประมาณ Lotus expess บ้านเรา
ซึ่งแถวๆที่พักจะประกอบไปด้วยร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ 2 ร้าน ซึ่ง มี เซเว่น ต้องขึ้นไปทางเหนือของที่พัก (ทางไปมหาลัย kobe) ร้านที่ 2 ลงมาทางใต้ระยะทางพอกันแต่ไม่ต้องข้ามถนน ร้านนี้ของกินน่ากินกว่า เซเว่น แต่ขนาดพอกัน (เน้นของกิน เซเว่นเน้นเบ็ดตะเล็ด)
2 ร้านนี้จะใกล้ที่พักมากและระยะทางพอกัน โดยส่วนใหญ่เราก็จะฝากท้องกันที่ เซเว่น (ช่วงเช้า) และ มินิมาท ในช่วง (เย็น) เพราะมินิมาท เปิด 10:00 โมง และปิด 22:00 เลยกลายเป็นความไม่สะดวกของเราแทนหลังๆ พบว่าเดินไปอีกหน่อยจะเจอร้านที่ 3 ใหญ่กว่า 2 ร้านแรกมากมีแทบทุกอย่างเลย เปิด 7:00-24:00 ด้วย แต่เน้นไปทางช่วงเย็นแทน
แต่เช้านี้ขอฝากท้องกะร้านนี้หน่อยละกันนะ ไหนมีไรกินบ้างงงง
ตอนแรกกะจะจัด ซูชิ แบบกล่องซะแล้ว (500-600 Y) เหลือบตาไปเห็นผู้หญิงคนนึง เข้ามาละเดินไปฝั่งตรงข้ามกะซูชิแล้วหยิบเหมือนราเมงไป
เห่ย ไรอะ .... สิ่งแรกที่ชอบมาก คือ 98 Y .... ถูก เลยเลือไปกล่องนึงสีฟ้า (มี 3 สี แดง ฟ้า เขียว)
แล้วเดินตามไป จะดูว่าเขากินกันยังไง สรุป เขาจ่ายตังใส่ถุงออกไปเลย ... งง
ตอนนั้นคิดว่า ต้องใส่น้ำร้อนไหม? ต้องเวฟไหม? กินยังไงดีวะเนี่ย?
สรุปก็เอาวะวัดใจ เดินไปหยิบน้ำมาหนึ่งขวด พร้อมกับเหลือไปเห็นไก่ย่างพอดี แสดงว่าพึ่งมา ลองสักไม้ดีฟ่า
แล้วก็เดินไปจ่ายตัง รีบซื้อตั๋ว แล้วรีบขึ้รถไฟ ไป nishinomiya เพราะในแผนที่ที่อาจารย์นัดมา บอกว่าต้องไปต่อรถที่นั่น แล้วอาจารย์บอกเจอกันบนรถไฟด้วย รีบหน่อย ค่อยกินละกัน
สรุปเข้าใจอาจารย์ผิด กลายเป็นว่าอาจารย์จะมารับที่ Rokko เราเลยไปรออาจารย์ที่ nishinomiya มีเวลาว่างพอดี จัดสักหน่อยกินทั้งอย่างนี้แหละ ใส่น้ำที่แถมมาลงไป ใส่ทุกอย่างลงไป เห่ย อร่อย ! ไก่ย่างก็อร่อย สุดยอด กินหมดสักพัก อาจารย์ก็มาถึง
จากนั้นเราก็ออกเดินทาง ย้ายสายนี้ เปลี่ยนสายโน้น มั่วไปหมด จำไม่ได้เลย
ละเราก็ถึง osaka เหนือ
expo อะไรสักอย่าง
แวะทานไอติมสักหน่อย
ไอ้นี่คือทางเข้าของที่เราจะไปดู
เจอเด็กๆหน้ารักเต็มเลย รู้สึกว่าชอบถ่ายรูปคน
แล้วก็เดินมาถึงทางเข้าพิพิธภัณฑ์ สักทีไกลมาก
ง่อววว บัตรสวยนะเนี่ย
งานศิลป์ข้างใน อลังการ มาก
จริงๆมีเยอะและอลังการมาก แต่เอามาให้ดูแค่นี่พอ
จากนั้นเราก็ออกมากินอาหารนานาชาติด้านล่าง อยากลองมานานละอาหารไทยในต่างแดน
รู้สึกเฟล ๆ พลาดกับอาหารไทยในต่างแดนนะเนี่ย
จากนั้นเราก็เดินทางกลับระหว่างทางก็มีโชว์นั่นโน่นนี่เต็มไปหมดเพลินดี
จากนั้นเราก็นั่งกลับไปที่ Osaka จากนั้น อาจารย์ก็ปล่อยเรา ช๊อปปิ้งกัน Free Time แต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าช๊อป แพง กว่าไทยเยอะเลยไปดูตึกที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งตึกหน่อย เลยได้แบตกล้องสำรองมาก้อนนึง สบายใจ และเราก็ยัง Onisuga ไม่เจออีกเช่นเคย ร้านรองเท้าเล็กใหญ๋ล้วนมีแต่ Nike Addidas Newbalance แล้วเราก็กลับกัน โดยที่แยกเป็น 2 กลุ่มสาวๆกลับห้อง ส่วนน้องอีก 6 คนไปช๊อปกันต่อที่ Sannomiya เราเลือกลงกับสาวๆ แต่แยกกันที่สถานี โดยแยกไปหาไรกิน
ตอนแรกกะจะไปกินซูชิร้านเด็ดติดชายฝั่ง แต่คนเยอะ แล้วโต๊ะก็ใหญ่ไม่เหมาะกับการมากินคนเดียว เลยเดินย้อนกลับไป เจอร้านที่เซนเซบอกว่าเป็นร้านเทมปุระ เห่ย ลองหน่อยดีกว่า คนต่อคิวยาวเหมือนกัน (แต่น้อยกว่าซูชิเยอะเลย)
รอไป 10 นาที คิดว่าถ้าอีก 10 นาทีไม่มีการขยับจะเปลี่ยนร้านละ (แถวนิ่งเกือล 20 นาที) อย่างเมื่อย
แล้วก็ได้เข้าทีเดียว เกือบหมดแถวเลย เห่อ ค่อยยังชั่ว
พอเข้าไปร้านมีโต๊ะ 2 ตัว ที่เหลือเป็น counter bar นี่แหละที่อยากได้
แต่พอเปิดเมนูเท่านั้น ช็อก
ไม่มีภาพ ไม่มีภาษาอังกฤษ ... ตายกินไงดี
พนกงานมารับ order ก็บอกเขาไปว่า "can u speak English ? " เขาส่ายหน้า
เอาไไงดีวะ
ทั้งร้านมีพนักงาน 3 คน เป็นผู้หญิง (คนรับ order 1 คน)
เชฟ 2 คน เหมือนผู้หญิงจะเข้าไปถามเชฟ แล้วเชฟก็ส่ายหน้า
แล้วเขาก็หายไปไหนไม่รู้
สรุป เขาเข้าไปหยิบโทรสัพ มาพิมภาษาญี่ปุ่นแล้ว แปลงเป็นภาษาอังกฤษให้เรา อธิบายให้ฟังทีละเมนู (หน้าแรก) โครตเกรงใจ พออธิบายหมดหน้า ลืมหมดเลยว่าอะไรนัก สรุปจิ้มมั่ว 555 แล้วก็ได้กิน จนได้
อิ่มมาก ที่ญี่ปุ่นไม่มีมื้อไหนที่ ไม่จุก อิ่ม ประทับใจ
นอนดีกว่า ฝันดีนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น