วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

30 June 2015 [ปิดไตรมาสสอง]

วันอังคาร

วันนี้เปิดมาด้วยการคุยกับเพื่อนสองคนหมดวัน...

หลังจากที่แต่ละคนเรียนจบกันไป

ก็ดูเหมือนต่างคนต่างถามตัวเองว่า

เราต้องการอะไรจากชีวิต

เราต่างก็หาคำตอบไม่ว่าทางใดก็ทางนึง

การคุยกับเพื่อนก็เช่นกัน

วันนี้เป็นวันปิดงบไตรมาสสอง ตั้งเป้าไว้ 320,000

แต่ปิดได้ 317,135 ระหว่างวันปิดได้ 321,000 กว่่าๆ แล้วเชียว

ปิดไตรมาสไม่สวยเลย

วันนี้ตอนเช้าเก็บ synex เพิ่มอีก 10,000 ตามที่วาง MM ไว้

ถือว่าโอเคนะ ใจเย็นขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเก็บหมดพอตไปแล้ว

แต่ในวันที่หมอกลงเราต้องใจเย็น ให้เป็น


สำเร็จไหมขาดไป 2,900 จากที่วางแผนไว้ 



แต่วันนี้บอกเพื่อนไปว่า ตอนกูสำเร็จกูสำเร็จ 2 ครั้ง

ครั้งแรกสำเร็จในความคิด อีกครั้งสำเร็จจริงๆ

คงต้องกลืนน้ำลายน้ำลายตัวเองละพูดใหม่ว่า

ถ้าเราเอื้อมมือไปคว้าดวงจันทร์..

ถึงคว้าไม่ถึงก็ล้มท่ามกลางดวงดาว

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

29 June 2015 [synex]

วันจันทร์

วันนี้มีนัดกินกับเพื่อนเก่าที่สยาม...

ไม่รู้เพราะว่าเราไม่ได้เจอกันนานแม้จะมีโทรคุยกันบ้างแต่ก็ไม่ได้บ่อย หรือเป็นเพราะเพื่อนมันพาพี่มาด้วย

กลายเป็นหนุ่มที่นั่งกินข้าวกับสาวๆ  รู้สึกแปลก ไม่ผ่อนคลาย แอบอึดอัดเล็กๆ เหมือนเรื่องคุยมันหายไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือเวลาทำให้เราห่างกันจริงๆ

จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่พารากอนสักพัก

มันน่าจะเป็นโรคชนิดที่เจอร้านหนังสือแล้วใจไว้ไม่อยู่ต้องไปดูจนได้....

สรุปได้มา 4 เล่ม


ใจอ่อนกับหนังสือตลอดเลย จนตอนนี้หนังสือจะล้นห้องละ  อ่านปีละ 20 กว่าเล่ม ซื้อหนังสือปีละ 60 กว่าเล่ม เริ่มเป็นปัญหา

มีวิธีแก้ 2 วิธี   คือ 1 ซื้อเฉพาะที่จำเป็นแล้วได้ใช้จริง  2 อ่านให้เร็วขึ้น     ไม่ต้องคิดเลยเลือกข้อ 2

ตอนนี้พยามอ่าน The 4-hour Workweek อยู่ไม่น่านาน เดี๊ยวนี้ต้องอ่านอาทิตย์ละเล่มให้ได้ ( 1 เล่มไม่เกิน 500 หน้า )

ตลาดวันนี้ลงไปตามที่คิด  ลุ้นอย่างเดียวอย่าหลุดนะอย่าหลุด


SYNEX


คือชอบหุ้นที่มี vol อยู่แล้วเพราะอย่างแรกรอไม่นาน ( 1-3 สัปดาห์ ) ราคาแข็วพอสมควร ห่อมาไม่มาก 20,000 ตัว อยากได้เพิ่มอีก 10,000-30,000 น่าจะดีกว่านี้..... พรุ่งนี้หาเวลาเอาเพิ่ม stop 4.20

NPP


ทรงสวยมาก แต่ทุกอย่างแย่หมดเลยนะ แต่กราฟสวย ..... น่าสนใจ

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

28 June 2015

วันอาทิตย์

วันนี้เป็นวันที่งานยากๆเข้ามาในมืองานหนึ่งคือการเขียนรายงานว่า "ไปญี่ปุ่นแล้วได้อะไรกลับมา" ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรในการบรรยายความรู้สึกที่มีอยู่เต็มเปี่ยมกับการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าต้องเขียนออกมาเป็นภาษาอังกฤษ พระเจ้าช่วยตอนแรกคิดว่าภาษาตัวเองอ่อน แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ต่อไปน่าจะต้องหาวิธีเรียนจริงๆจังๆได้แล้ว อะไรที่เขียนไปถือว่าแย่พอสมควรเลยตอนแรกคิดว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้สัก 10 % ของภาษาไทยแต่เนี่ย ..... ถึง 1% ที่อยากจะเล่าไหม ฝึกภาษาด่วน

วันนี้ได้ข่าวค่อนข้างชัดว่ากรีกน่าจะต้องผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 30 นี้แล้ว เพราะนายกฯของกรีก จะทำประชามติในวันที่ 5 นี้ว่าจะเอาไงต่อ แต่ที่น่าตื่นเต้นคือ.... 30 นี้ จะเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ คาดว่าหุ้นน่าจะลง แต่ไม่แรงมากน่าจะ 20-50 จุด แต่ถ้าผิดนัดจริง แล้วออกจากยูโรจริงนับจากพรุ่งนี้น่าจะลงได้ถึง 100-200 จุดเลยทีเดียว + ความไม่แข็งแรงของตลาดเราแล้วด้วย...หึๆ

รอของถูก

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

27 June 2015

วันเสาร์

วันนี้มีงานแต่งานของพี่ชายที่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ ต้องไปช่วยงาน ตามระเบียบ 

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

26 June 2015

วันศุกร์

สำหรับบางคนเจอวันศุกร์แบบนี้ก็คงไม่สุขเท่าไร แต่กับ Job เจอศุกร์แบบนี้มันสุดๆไปเลย 

10:30 : อบรมการใช้ turnitin 
11:30 : เซนเอกสารที่ห้องกระจก
11:45 : ติดต่อเจ้าหน้าที่ shop
12:00 : วิ่งไปเอาเอกสารการวิจัย

จากนั้นก็กลับบ้านไปง้อแม่ก่อน....

ระหว่างทางจัด The 4-hour workweek มาเฉยเลย 

25 June 2015 [โตเกียวไม่มีขา]

วันพฤหัสบดี

วันนี้ตื่นมาพร้อมกับร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ก็จัดการแต่งรูปส่งรูปให้สาวๆเกือบหมด 

ช่วงบ่าย ขอดูหนังสักเรื่องแล้ว 

Theory of Everything เป็นชีวิตของ Hawking คือมีแต่คนบอกว่าดีมากเลยขอสักหน่อย

พระเจ้า ดีกว่าที่คิดเยอะเลย 

เยอะแบบ social network , Jobs เทียบไม่ติด ทั้งที่เป็นหนังแนวเดียวกัน ....

ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก รู้สึกว่าตัวเองเป็น Hawking จริงๆเลย

เย็นอ่าน โตเกียวไม่มีขา จนจบ ตั้งแต่อ่านหนังสือของนิ้วกลมมา เล่มนี้ดีสุดแล้วจริงๆ

แนะนำ

ตลาดช่วงนี้ต้องซอยฟุตเวิค หาจังหว่ะก่อน หยุดไป 14 วันสายตาเหมือนไม่ชินเกม

24 June 2015

วันพุธ

อยู่ก็ป่วย .... ผ่านไปได้ยากจริงๆนะอาการนี้เนี่ยย

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

23 June 2015

วันอังคาร

วันนี้ตื่นสายแต่ดันมีนัดกับอาจารย์... แย่เลย 

แล้ววันนี้ก็เป็นมหกรรมการเขียนไดอารี่ย้อนหลัง... 

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

22 June 2015 [วันแรกที่ไทย]

วันจันทร์

วันแรกของการกับมาที่ไทย

จัดของทั้งวัน เอาขนมให้เพื่อน ให้อาจารย์  หมดวันจ้า

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

21 June 2015 [Osaka and last day in Japan]

14 days in Japan

วันสุดท้า่ยที่ญี่ปุ่น ตื่นมาด้วยอาการเบอๆ เหมือนคนอกหัก ...

รู้สึกว่าการใส่ภาพลงไปข้างในบล็อกเยอะ บล็อกจะพังง่ายๆ

หลังจากที่เหนื่อยมาอย่างสาหัจ จากเมื่อวานก็หวังว่าวันนี้จะได้นอนยาวเพราะอาจารย์บอกปล่อยฟรี

แต่ก็น่าตกใจ.. ตรงที่ โรงแรมต้องเชคเอาท์ก่อน 10 โมง พระเจ้าช่วย ดีนะตื่นมาอ่านไลน์ทัน

โชคดีไปตื่นมาอ่านตอน 9 โมงพอดี รีบอาบน้ำรีบเก็บของ ไปเที่ยววันสุดท้ายกันดีกว่า

ปราสาทโอซาก้า ถ้าไม่มาถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้า



ข้างในเป็นเรื่องเล่าของปราสาทตั้งแต่ก่อสร้าง โดนทำลาย และก่อสร้างใหม่น่าประใจมาก

จากนั้นเรานั่งใต้ดินไปนัมบะ ช๊อปปิ้งครั้งสุดท้าย... (ของสาวๆ) สำคัญเสมอ



งานเลี้ยงต้องมีการเลิกลา การเดินทางก็ต้องมีวันสุดท้ายเช่นกัน ใจหายลึกๆ 

วันนี้ต้องกลับไทยแล้วกลับไปเจอกับความจริงบางอย่างที่ต้องยอมรับแล้วอยู่กับมันให้ได้ (ใช่ไหม)

ไม่ว่าความฝันนั้นจะสวยงามขนาดไหน

เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องตื่นขึ้น 

ตื่นมาอยู่กับความจริงที่...   ให้ได้

ใกล้ได้เวลาตื่นแล้วสินะ


ไม่ว่าความฝันจะสวยขนาดไหนก็ไม่สำคัญเท่า เวลาตื่นแค่อยากมีสักคนอยู่ข้างๆ แบบนี้ไปตลอด จนแก้เฒ่า

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

20 June 2015 [Tyoto Osaka Nagahama]

13 days in Japan

วันนี้เริ่มต้นจาก.. การตื่นแบบเกือบสาย ก่อนเวลานัดครึ่ง ชม.

เป็นบทเรียนที่ดีบทเรียนนึงในการมาที่เลย คือ ปกติจะนอนกับน้องคนนึง ชื่อ เจม

แล้วไอ้เจมเนี่ยแม่งเป็นคนที่ปลุกตรงเวลามาก ช่วงหลังเลยไม่ตั้งเวลาปลุกแต่วานให้เจมปลุกตลอด

ปลุกตรงอย่างกับนาฬิกาปลุก ตรงเวลามาก ..... แต่วันนี้เจมปลุก แล้วพูดว่า "พี่จ๊อบๆ" เสียงเข้มๆ

ปกติจะเสียงนิ่มๆ "ตื่นเร็ว เจมเผลอหลับ" ชิปหายละ.. คิดในใจกะว่าวันนี้จะเป็นวันแรกที่ได้อาบน้ำสระผมตอนเช้า สงสัยต้องท่าเดิมอีกละ


วันนี้เราจะไปที่ Yanmar Museum ที่ Nagahama ซึ่งไกลพอตัว ต้องนั่งผ่าน Kyoto แล้วถึงจะถึงเมืองนี้ อาจารย์เลยจัดให้ขึ้น shinkansen  ตื่นเต้น รถไฟในตำนาน (แต่ไม่นึกว่าการขึ้นรถไฟด้วยความรู้สคกตื่นเต้นจะทำให้คนเข้าใจผิดได้ด้วย) และแล้วก็ขอวัดกับความเร็วซะหน่อย ถ่ายรถไฟที่เร็วที่สุดของญี่ปุ่นหน่อยซิ ขณะกำลังเข้าชานชาลา 


พอขึ้นไปรู้เลยว่า ญี่ปุ่นมีเครื่องบิน 2 แบบ คือ หนึ่งเครื่องบินที่บินบนฟ้า กับเครื่องบินบนดิน คือ shinkansen เข้าไปเบอะสบายกว่าเครื่องบิน ซึ่งดีกว่ารถไฟทั่วไปอยู่แล้ว มีเลื่อนเบอะข้างหน้าออกมาเป็นที่กินข้าวได้เหมือนในเครื่องบิน บนตั๋วมีเลขที่นั่ง ว่าต้องตรงไหน


ใช้เวลาไม่นาน 40 นาทีเราก็ถึง Nagahama ซึ่งเราต้องเดินต่อไปอีก 2 km ก็จะถึง museum ซึ่งเป็นการเดินที่คุ้มค่ามากเพราะสองข้างทางมัน.... มันมีแต่แบบนี้









อาจารย์เล่าให้ฟังว่าเขาอนุรักษ์ไว้พวกนี้เป็นบ้านเมื่อ 300 ปีก่อน แบบสวยนทุกหลัง งามมาก

แล้วเราก็ถึงที่หมาย


เข้าไปสิ่งแรกที่โชว์ด้านในคือเครื่องยนต์ดีเซลโบราณเครื่องหนึ่งที่ต้องบอกว่า อลังการมาก



จากนั้นอาจารย์คาวามุระก็เอาตั๋วมาให้เรา  แล้วก็ถึงเวลาทำลายที่นี่กันแล้ว  เอ่ย ชมเฉยๆ ดีกว่า


เข้าไปเขาให้ดู หนังแนะนำเรื่องนึง เป็นหนังแนะนำ Yanmar ซึ่งทำมาดีมาก ดีกว่าหนังบางเรื่องซะอีก

แต่ดูก่อนหนังฉายทุกคนแล... ง่วง



หลังจากนั้นเราก็เข้าไปตัวของ Museum ... 




























เป็น Museum ที่ชอบที่สุดในทริบนี้เลย ...  นอกจากสถานที่ ที่ดีแล้ว ยังประใจคนๆนึงมากด้วย คน คนนั้นคือ ลุง 








ลุงใจดีมาก ...มันจะมจุดที่ให้เราทำเข็มกลัดด้วยตัวเอง พอเราทำเสร็จก็มาเจอลุง ลุกก็เหมือนถามเราว่าได้เข็มกลัดแบบไหน ของเราเป็นสีไข่ๆ ลุงแกะจากคอแกให้อีก 3 อัน ครบ 4 สีพอดี แล้วลุแกก็พาไปเล่นนู่นเล่นนี่ บางทีก็ยืมกล้องไปถ่ายตอนเล่นให้ ไม่รู้จะเขียนอธิบายคำว่าถูกโฉลกกับลุงยังไงดี สุดท้ายขอลุงถ่ายรูปคู่หน่อยดีกว่า 


จากนั้นเราก็กลับจาก Museum กัน โดยตกลงว่าจะไปืั้ Kyoto ไปดูวัด Kiyomizu (วัดน้ำใส)



สนับสนุนโดย อาจารย์ Kawamula อีกเช่นเคย ตามไปส่งเราถึง Kyoto


หลังจากเดินทางมาถึงสถานีเกียวโตเราก็ต้องต่อรถเมย์ไป เป็นครั้งที่สองในญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นรถเมย์


ระหว่ารอรถ....

พอเรามาถึงวัดน้ำใสก็ต้องเดินขึ้นไปอีก ไม่ใช่ว่าจะไปได้ง่ายๆนะเนี่ย






ระหว่างไปเที่ยวเจอสองคนนี้เขาวานถ่ายรูปให้ บอกได้เลยมีความสุขมาก

เลยขอถ่ายรูปเขาไป 3-4 รูป


จุดถ่ายรูปยอดฮิต แต่ก่อนเข้าโซนด้านในต้องเสียตัง 300 เยน เป็นค่าเข้าก่อน ไหนๆมาแล้ว จัดสักหน่อย




ตอนนี้เหลือสามคนอีกแล้ว แวะหาไรกินบนนี้แหละ หลังจากเดินชมจนอิ่ม รูปเยอะมาก แล้วก็เดินลงดีกว่า วันนี้อยากไปนับบะ แหล่งช๊อบปิ้งของโอซาก้า




BYE BYE KYOTO


นั่งข้ามจังหวัดมันนานจริงๆ นะ หลับไปสองตื่น เราเดินทางกันเกือบ ชม. เราก็มาถึงสถานี osaka จากนั้นก็มั่วรถไฟไปนับบะกันพักนึง ....  ช่วงนี้กินเวลานาน แต่ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ ด้วยความที่พลาดไม่นั่งใต้ดินกันมาเลยต้องเดินกันไกลกว่าจะถึง ดงธนบุรี





ตอนนั้นอากาศเริ่มเย็น แล้วไข้เหมือนจะขึ้น และแบตหมด... จบกัน

ช่วงนั้นทรมาณเบาๆ แล้วก็เดินทางกลับกลับมาก็..... หลับเป็นตาย