Porous Media lecture 2

         
Monday , 31 / 08 / 2015

        ไม่รู้ว่าครั้งสุดท้ายที่รู้สึกสนุกกับ lecture class คือเมื่อไหร่ไม่รู้ เท่าที่รู้คือ นานมากแล้ว แต่วันนี้ อาจารย์ ทำให้ความรู้สึกแบบนั้นกลับมาอีกครั้ง ทั้งทฤษฎีปลาหมึก , ทฤษฎีมังกรหกหัว กระบวนการคิด การมองปัญหา ประวัติศาสตร์ เอามารวมกันหมด แล้วสอนเป็นขั้นเป็นตอน แบบนี้เรียกได้ว่าสอนแบบครบวงจร ทำเอาไม่หลุดไปไหนเลย อาจารย์สมดุลทั้งความยากและความสนุกของวิชาได้ดีมาก เพราะยากไปเด็กจะงง ถ้าง่ายไปเด็กก็จะเบื่อ นี่มันคือศิลปะ ชัดๆ 

        ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ อาจารย์ชอบย้ำซ้ำๆว่า "ลองจินตนาการดูนะ..." "ลองจินตนาการว่า..." มันทำให้ประโยคคลาสิคลอยขึ้นมาในหัว "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" สร้างจินตนาการขึ้นมาก่อนแล้วค่อยเติมรายละเอียดด้วยความรู้และทฤษฎี 

ความคิด ณ ขณะหนึ่ง

คาบที่น่าประทับใจ ของ อาจารย์ ผดุงศักดิ์

        ตลาดค่อยๆเริ่มเฉลย ค่อยๆดูด้วยความปล่อยวางทั้งอันตราย และน่า bet หน้า put ตอนนี้มีจัวเล่นมากขึ้นแต่ถือ positionเต็มมาตั้งแต่ week ที่แล้ว focus in the zone

Rest

Sunday , 30 / 08 / 2015

        วันพักผ่อนอีกวัน วันนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปทำฟัน มีโอกาสได้คุยถึงสิ่งที่ทำอยู่กับหมอฟันระหว่างรอยาชาที่ฉีดไปทำงาน ไม่แน่ใจว่าหมออยากฟังจริงๆไหมไม่แน่ใจ แต่คุยไปแล้วแรงบันดาลใจเพิ่มแบบแปลก รู้สึกเหมือนได้คุยกะตัวเองแบบเป็นเรื่องเป็นราว "น้องจ๊อบอยากทำอะไร" "แล้วจะทำอย่างไร" เป็นต้น จำได้ไม่หมด หมอบอกว่าเมื่อก่อนหมอเป็นคนชอบเขียนบันทึกเหมือนกัน ลองย้อนกลับไปอ่านดูนะ เห็นแต่วันนี้สอบนี่มา วันนั้คะแนนออกดีใจ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไงก็ไม่รู้ สงสัยต้องรอทำบ้าง รอเยอะก่อน

        เป็นคนที่คลั่งไคล้หนังสือมาก แม้จะไม่ค่อยมีเงินสดติดตัวมากเท่าไรแต่วันนี้ก็เผลอไปสอยมาสามเล่ม หลังอ่านจบจะมาเล่ากันเนอะ

        วันนี้รู้สึกว่าทุกคนจะตื่นตัวกับค่าเงิน ringgit ของ Malaysia ยกใหญ่ เลยไปอ่านบทความหนึ่งของ The economist เรื่อง Why emerging-market weakness is not a replay of the 1997 financial crisis เปรียบเทียบได้เห็นภาพแล้วได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย ตัวแรกคือความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ ระดับ Macro กับ ภาษาอังกฤษ อัพ skill ทีเดียวสองด้าน 

เปรียบเทียบการอ่อนตัวของค่าเงินบาทกับริงค์กิต เหมือน ringgit จะเร็วกว่า baht นะเนี่ย ต้องบอกก่อนว่าไม่เก่งเรื่อง Global Macro Econ ขอไม่ให้ความคิดเห็นแต่เอามาเปรียบเทียบเฉยๆดีกว่า 

เซต มาถึง red Zone ดูจะเป็น zone ที่น่าสนใจในการ short แล้วมั้ง ค่าความแปรปรวนบอกว่าช่วงนี้จะผันผวนสูง ดูจะเป็นช่วงที่น่าจะเล่นยากอีกช่วง วันจันทร์วัดๆกันไปเลยว่า 1360 เอาอยู่รึป่าว รึว่า บ๊ะลานุภาพของสมคิดจะมีอยู่จริง

Rest

Saturday 29 / 08 / 2015

        วันเสาร์วันแห่งการพักผ่อนที่แท้จริง... ยิ่งพอถึงบ้านแล้วไม่อยากทำไรเลย burn energy สุดๆ แต่ยังดีได้อ่าน "50 economics ideas you really need to know" ได้สัก 4-5 บท สนุก แต่ แอบยากเบาๆ 

seminar คาบแรก จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ

Friday , 28 / 08 / 2015

        seminar คาบแรกวันนี้เริ่มเรียน 9:30 ตอนแรกลังเลว่าจะเข้าหรือไม่เข้าดี ตอนนั้น 9:30 แต่ก็ยังไม่มั่นใจ สรุปตัดสินใจ ไปดีกว่า เพราะถ้าไม่ไปมองย้อนกลับมาน่าจะเสียดายมากๆแน่
        อาหารมื้อเช้าวันนี้หนีไม่พ้นกาแฟ จริงๆมื้อเช้าเป็นมื้อที่ต้องกินเยอะสุดเพราะเราจะต้องใช้มันไปทั้งวัน แต่บางวันมันก็จำเป็น (เนื่องจากการนอนดึกของตัวเองแท้ๆ)
        9:45 เปิดประตูเข้าไปแทนที่จะพบกับ อ.ซุป แต่ดันเจอหัวหน้าภาค OMG ไม่น่าเชื่อว่าจะซวยแบบนี้กะว่าชิวๆ อ.บรรยงค์ถามว่า "คุณไม่ได้ลงวิชานี้เหรอ" "อ่อ มา sit in ครับ" "ต่อไปคุณมา sit ทุกคาบนะ" "ชิปหาย" อันนี้คิดในใจ หาเรื่องใส่ตัวไหมเนี่ยนอนสบายๆไม่ชอบ
        พอ อ. เริ่ามบรรยาย ไอ้ความรู้สึก "ซวย" หายไปเว่ย คือ เคยเรียนกะแกมาหลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้รู้สึกแกพูดดดีกว่าทุกครั้ง เริ่มจากการอธิบายหลักสูตรว่าจะจบต้องผ่านอะไรบ้าง มีอะไรที่คุณต้องการบ้าง... ส่วนใหญ่แกอธิบายแต่ ป.โท (ก็มันวิชาป.โทนี่) แกก็อธิบายว่า จะจบโทเนี่ยทางเรา ต้องการอะไรบ้าง course work กี่ตัว เกรดเท่าไหร่ (ห้ามต่ำกว่าสามนะจ๊ะ) หลักสูตร 2 ปี แต่ให้เต็มที่ได้ 6 ปี อันนี้เด็กเงื่อนไขที่สำคัญ คือ ตีพิมพ์ 1 paper หรือ 1 conference ซึ่ง conference ง่ายกว่า อาจารย์ก็อธิบายหลังเราส่งหัวข้อไป จะเหลือเวลาทำกี่เดือน (2เดือน) ต้องส่งอย่างช้าเท่าไหร่ ต้องสอบ proposal เมื่อไหร่ progress เมื่อไหร่ สอบจบตอนไหนถึงจะสองปีพอดี เห่ย คุยไปคุยมาไฟลุกเว่ย อยากรีบจบเร็วๆเลย เร่งวางแผนแป๊บ (paper ไม่เริ่มอ่านจะใกล้ความจริงไหม)
        ต่อ อ. พูถึงเรื่องแลปต่างๆ การใช้ชีวิตในฐานะนักวิจัยว่า "การที่คุณจะหาแนวทางของตัวเองเจอคุณต้องจบไปแล้ว 4-5 ปี ถึงจะเริ่มมีแนวทางของตัวเอง พอคุณจบคุณนึกว่าคุณเก่ง คุณนึกว่าคุณรู้แต่จริงๆไม่รู้" "ยิ่งเรียนแล้วรู้สึกว่าตัวคุณโง่ลง แสดงว่าการเรียนเริ่มประสบความสำเร็จละ" "คุณมาเรียนไม่ใช่ไปทำงานวิจัยแบบเดิมๆ เลียนแบบ อาจารย์คุณนะเว่ย คุณมาเอาวิธีการทำ (research methodology)" "การที่คุณจะประสบความสำเร็จคือถ้าเขาพูดถึงเรื่องนี้ชื่อคุณเป็นชื่อแรกๆที่เขานึกถึงไหม หรือเป็นแค่คนข้างๆอาจารย์คุณ" แต่ละคำโดนๆทั้งนั้น
        ก่อนจบอาจารย์ยังเล่า ประสบการการไปเรียนที่ illinois อเมริกา เรียน โท-เอก เป็นเวลา 6 ปี ว่าเป็นไงมาก ชนชั้นในอเมริกา ระบบการให้การบ้านที่ๆนู่นฮิตมาก คือ การบ้านจะยากกว่าข้อสอบ ฝรั่งเขาไม่ค่อยลอกกัน อารมณ์แบบความรับผิดชอบสูง เรียนมันมาก อ. บอกที่นู่นตอนเรียนเป็น 1-5 ม. ที่แพงสุดที่อเมริกา หน่วยกิตละ 1,000 $ ตกวิชาละแสนบาท "ผมดรอปไป 1 ตัว" บอกแล้วก็หัวเราะ คืออะไรอาจารย์ เห่ย ทำไมเล่าไปเล่ามาชีวิตดูมีสีสันจังวะ อยากใช้ชีวิตอย่างนี้บ้าง ที่สำคัญคือ อาจารย์จบพระนครเหนือมา คุยไปคุยมา อ่าว อาจารย์เป็นเด็ก ปวช. รุ่นแรก .... ชิปหายเจอศิษย์พี่ PMT 01 ดันเป็นรุ่นที่ 22 แถมแยกมาเป็น FO อาจารย์จะเข้าใจไหมเนี่ย ..
        สรุปสุดท้าย... อาจารย์พูดไว้ตอนนึกว่าเวลาคุณเลือกหัวข้อสำหรับวิจัย คุณต้องเลือกเรื่องที่สำคัญ อย่างแรกคุณต้องรู้ว่าจะทำฟิวไหน สองคุณต้องไปรีวิวงานที่คนอื่นเขาทำมาแล้วหากรอบของงานคุณให้เจอจากตัวเลขทางสถิติ สามคุณถึงจะเริ่มมาเจอะลึกตัวงานอาจจะต้องอ่านเชิงลึกทั้ง paper สิทธิบัตร และต่างๆอีกมากมาย  ที่สำคัญคุณต้องเลือกอะไรที่ส่งผลต่อสังคมในวงกว้าง เพราะไหนคุณเหนื่อยแล้วก็ให้มันคุ้มค่าหน่อย
ปล.อาจารย์บอกอีกว่า เราเป็นวิศวกรนะเว่ย มันต้องเอาไปใช้ได้จริง อ. บอกงี้

เป็นคาบที่คุ้มค่ามากเลย ....

First Class Advance Math.

Thursday , 27 / 08 / 2015

        วันนี้เรียน advance math. ครั้งแรกหลังจากพลาดมาหลายรอบถือว่าประทับใจน้อยกว่าที่คิด ไม่เหมาะกับอาจารย์ที่สอนวิชายากที่สุดในภาคเลย   ordinary differential equation basic ทั่วไป หา general solution , particular solution , initial condition , linear differential equ. , แล้วก็โจทย์ประยุกต์ของ ความร้อน  การสลายตัวของธาตุ การำหลของน้ำ (Torricelli's law) สบายๆ ชิวๆ อีกวัน แต่ที่น่าเสียดายคือไม่ได้อ่าน paper อีกแล้ว แต่เก็บงาน update impact factor เรียบร้อยแล้ว

        วันนี้จะออกไปวิ่งข้างในมอสักหน่อย ฝนดันตกเหมือนอยากให้พักอีกวัน ..... พักก็พักนั่งสมาธิแทนละกัน

        เป็นวันที่ตลาดขึ้นพอตัวเลย ถือหุ้นนิ่งๆไม่ได้ทำไรนอกจากปล่อยให้มันวิ่งไปเรื่อยๆ ตอนนี้ตัวที่ถือไว้แล้วติสภาวะ Flow มีตัวเดียวคือ THE

เงินบาท ยังอ่อนต่อเนื่อง ดูท่าตลาดยังไม่กลับทิศแบบจริงจังสักเท่าไร...

ในกรอบสีส้มถือว่าเป็น zone ระวังอนตรายแนะนำอย่าเข้าไปสะสมนะครับ ....

Sleep late

Wednesday , 26 / 08 / 2015

        เป้าหมายหลักวันนี้คือการอ่าน paper ให้จบทั้งๆที่ว่างทั้งวัน แต่เป็นเพราะเมื่อคืนนอนดึกเลยพลาดไปหมดเลย เวลานอนสำคัญจริงๆนะ ท่องเอาไว้

        วันนี้ลองไปวิ่งไป 5 - 6 นาที อาการเจ๊บเข่าก็กลับมาอีก อยากหายแล้วนะ....

        วันนี้ขาย CPR ที่ 5.80 ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะขายเปิดพรุ่งนี้ ใจไม่แข็งเลย ...แถมวันนี้ปิด ceiling + break high อีก เสียดาย take profit เร็วไปนะ  แต่ไปเก็บ star กับ swc ถือว่าพอช่วยรักษาอาการเสียดายได้นิดหน่อย Focus In The Zone ท่องไว้

พรุ่งนี้น่าจะวิ่งได้ ......

เด้งแรก

Tuesday , 25 / 08 / 2015

        วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่ได้ตื่นไปวิ่ง เพราะเข่าเจ๊บ แถมยังไม่ได้นั่งสมาธิอีกตั้งหาก.. ข้อดีคือได้พักเต็มที่ แต่พลาดตรงรีบไปเรียน แต่ไม่เรียน 

        วันนี้ไม่ทำตามแผนโดนหุ้นดีดใส่ 2-3 ตัว แถมกดขายไปกดซื้ออีก เซงเบา 

        วันนี้เป็นวันที่ได้เรียนตัวที่สอง ในรอบเทอม 

        พรุ่งนี้น่าจะเป็นอีกวันที่สวยสดใส 

- 64.55

Monday , 24 / 08 / 2015

        วันนี้ตอนเช้าจะออกไปวิ่งแต่อาการเข่าเจ็บกำเริมมาอีกครั้ง เลยไม่ได้วิ่ง เลยนั่งสมาธิเลย วันนี้ flow ได้ดีกว่าเมื่อวานเยอะเลยอาจติดปัญหาช่วงกลางๆกับท้ายๆนิดหน่อยลืมตาก่อนเวลา 5 นาที ถือว่าเริ่มโอเคละ จากนั้นก็รีบไปเรียน แต่ อาจารย์เปลี่ยนวันสอนเลยว่างไป 

        แปนที่เมื่อคืนเตรียมไว้รับแรงกระแทกจากตลาดถือว่าเตรียมไว้ค่อนข้างแน่นเปิดมา -30 ตามคาดจากนั้นตลาดไหลไปแถว -40 หุ้นที่ถือไว้ยังเอาอยู่ จากนั้นพอตลาดหลุด -40 เริ่ม cut เลยจ้า แผนที่เตรียมมาเหมือนเราเจอเหตุการณ์นั้นมาแล้วครั้งนึง มันทำให้เรานิ่งขึ้นเปิดไปอ่านไลน์กลุ่ม โห ล้มตายกันระเนระนาด คนนี้บอกจะไป 1,000 อีกคนบอกรอ 700 บรรยากาสมัน panic จริงๆเลย ตอนนั้นเริ่มเข้าไปสะสมหุ้นที่ list ไว้ตามแผนได้ 2 ตัว ว่าเป็นการทะยอยๆเก็บละนะ สุดท้ายต้องคัททิ้งไปอีกตัว จากนั้นหุ้นที่เราเคย list ไว้ทรงเสียกันเป็นแทบๆ เรียกว่าไม่มีหุ้นเลยเลยก็ได้ เริ่มหันกับมามองตลาด 

คือ ขาลง เข้าใจ จะหลุดเข้าใจ แต่กรุณาอยู่ใกล้กรอบด้วย แหม หลุดน่าเกลียด เลยกด call set50 dw ไปสองไม้ ตอน 3โมงนิดหลังจากเด้งจาก -50 มา -49 กับ กดตอนปิดอีกไม้เท่าๆกัน ไม่อยากสวนนะ แต่ math. model มันให้สวนจริงๆ ตอนถือหุ้นไว้ 35-40% ถือว่าน้อยมาก ถ้าเทียบกับ position trade แบบเรา วันนี้ dowjone โชว์หล่อ เปิด -1,000 เด้งมา -184 (เที่ยงคืนนิดๆนะ) หล่อมาก  ถ้ายังคงสภาวะนี้ตอนปิดพรุ่งรับรองมีเฮ

        วันนี้ burn energy ไปกับ การเดินทางกับการ focus ในตลาด ไม่มีผลงานที่เรียนเลย ไม่ดีเลยๆ พรุ่งนี้ต้อง balance energy ให้ดีกว่านี้

        เผลอดูหนังไปเรื่องหนึ่ง Edge of  Tomorrow พันเอกของกองทัพสหรัฐคนนึง (รบไม่เป็นแนวหุ่นเชิดของกองทัพ) แต่ดันถูกส่งไปรบที่แนวหน้ากับพวกต่างดาว แล้วพระเอกก็ดันฆ่าต่างดาวมันได้ตัวนึงซึ่งเป็นระดับ อัลฟา โดย พวกต่างดาวเนี่ยมี โอเมก้า เป็นศูนย์กลาง คอยส่งคำสั่งควบคุม พวกมันทุกๆตัว จากนั้นก็เป็นระดับ อัลฟา แล้วก็ลูกน้อกธรรมดา โดยตัวแม่มันมีหน้าที่ย้อนเวลาเมื่อ อัลฟ่า ตาย แต่พอพระเอกข้า อัลฟ่า เลือดอัลฟ่า กระเด็นเลอะพระเอก จากนั้นพระเอกก็ตายแล้วก็ฟื้นขึ้นในเวลา 1 วันก่อนตายเสมอ พระเอกก็ตายทุกๆวันที่เข้าสงครามแล้วย้อนกลับมาอีกวัน .... ที่เหลือต้องไปตามดูเอาเอง ที่ชอบมากก็ คือ ตอนสุดท้ายพระเอกย้อนเวลาไม่ได้แล้ว หน้าที่ คือ ทำตรงหน้าให้ดีที่สุด 

มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ฟังดูง่ายที่สุดแต่ก็เป็นเรื่องที่ทำยากที่สุด เช่นกัน มีนักเขียนคนนึงเคยถามคำถามไว้สามข้อ คือ 

ใครคือคนที่สำคัญที่สุด ?

งานชิ้นไหนสำคัญที่สุด  ?

และเวลาไหนคือเวลาที่มีค่ามากที่สุด ? 

ข้อแรกคนส่วนใหญ่มักตอบว่า พ่อ แม่ ลูก หรือครอบครัว คนรัก แต่เขากลับตอบว่า คนที่อยู่ตรงหน้า  

ข้อสองคนส่วนใหญ่มักนึกถึงโปรเจคชิ้นสำคัญๆมูลค่ามหาศาล แต่เขากลับตอลว่า งานตรงหน้า 

ข้อที่สาม เขาก็ตอบว่า เวลาปัจจุบัน 

จากคำตอบสามข้อ ค่อย ๆ คิด ว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น ท่าน ว.วชิรเมธีเคยพูดถึงคำถามสามข้อนี้ในคลิปๆหนึ่ง ซึ่งดีมากๆเลย และตรงกับคำสอนของ ท่าน ติช นัท ฮัน เรื่อง now ด้วย 

ยิ่งคิด ยิ่งไม่รู้ เพราะไม่คิด จึงรู้ ที่รู้ เพราะไม่คิด #เข้าใจมากขึ้นเมื่อนั่งสมาธิ 

หนังเรื่องนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างวที่น่าสนใจ พระเอกจากรบไม่เป็นเลยเก่งขึ้นเพราะซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม ความเก่งไม่เคยง่าย พระเอกเกือบจะเลิกไปตั้งหลายครั้ง แต่เพราะถ้าเลิกก็ต้องสูญเสียบางอย่างไป มันเลิกไม่ได้

ทีม สำคัญเสมอ ไปให้ไกลต้องไปด้วยกัน ต้องไว้ใจกัน ถึงจะเป็นทีม

ปล. รู้สึกตัวเองเขียนงงคราวหน้าขอแก้ตัวใหม่

Reborn Diary

Sunday , 23 August 2015

        กลับมาเขียน บล็อกอีกครั้ง หลังจากอ่านหนังสือ Show Your Work ของ Austin Kleon แล้วก็รู้เลยว่าต้องกลับมาเขียนอีกครั้งแน่นอน ครั้งที่แล้วที่เลิกคิดว่าไม่รู้จะเขียนทำไม ความรู้ในอินเตอร์เนตมีตั้งเยอะแยะ จะเขียนเพื่อ Prove ตัวเองก็ไม่ค่อยได้อะไรเพราะเวลาเทรดก็เก็บ Stat ของการเทรดตลอดอยู่แล้วแต่จริง ๆ  ชีวิตมันของเรามีอะไรให้เล่ามากกว่าเรื่องราวในตลาดในแต่ละวันเยอะเลย เลยจะทำใหม่ให้เป็นที่เล่าถึงแรงบันดาลใจ หนังที่ดู หนังสือที่อ่าน เรื่องราวที่กำลังทำ ..

        รู้สึกว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเจอแรงประทะก้อนใหญ่  

คาดว่าวันจันทร์ตลาดจะเจอแรงประทะก้อนใหญ่พอสมควร เล่นตามแผน เล่นตามเกม ถามว่าตอนนี้ตื่นเต้นไหมกับภาวะนี้ไหม ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ แม้จะถือหุ้นเอาไว้ 94% ของพอตก็ตาม ... 

หุ้นที่มอนิเตอร์ไว้หลัก ๆ 

        วันนี้เช้า ๆ (8โมง) ตื่นไปวิ่ง ลู่เต็มเลยกะว่าตอนเย็นจะไปวิ่งที่สนามกีฬาแทน ได้แต่ซิตอัพเบา ๆ 2 เซต เซตละ 3 ท่าไป #ความสำเร็จเล็กๆ  เสียดายกินข้าวเลทไปหน่อย พรุ่งนี้เอาใหม่

        ต่อมาก็นั่งสมาธิ 1 hr. หยุดไป 2 วันแต่ถือว่าระดับสมาธิยังปกติไม่ได้รู้สึกยากเพิ่มขึ้น (ยากเท่าเดิม) ระหว่างนั่งมีสภาวะ Flow แต่ไม่มากเท่าสองวันที่แล้ว (ก็หยุดไปนี่) แต่โชคดีที่ช่วงนี้งดแอลกอฮอล์เพื่อรักษาระดับสมาธิ (ให้ครบ 40 hr. ก่อน) 

        ช่วงบ่าย solve สมการ momentum กับ continuity เสร็จพอดี ถือว่าเป็นงานที่เกี่ยวกับการเรียนเอกในรอบ 2-3 วันนี้เลย พรุ่งนี้มีการเรียน Advance Math กับ ศาสตราจารย์ อีกคนหนึ่งของภาค ต้องเล่าเท้าความนิดนึงว่าช่วงทีี่เข้าเป็นนักศึกษาวิศวกรรม (ป.ตร๊) ที่คณะมี ศ. 3 คน อยู่เครื่องกล 2 คน คนนึงเป็ฯอาจารย์ที่ปรึกษาในปัจจุบัน (ป.เอก) อีกคนได้ยินชื่อมานานว่าให้เกรดยาก สอนเฉพาะวิชาเทพๆของสายวิศวกรรมเท่านั้น เช่น Advance Fluid , Advance Math เรียกได้ว่าให้เกรดยากมาก ยากจนกระทั่งรุ่นพี่ที่เก่งมากๆคนนึงของภาคไปลงเรียนกะแกแล้วได้เกรดสูงสุดใน class นั้น คือ C+ พรุ่งนี้แล้วตื่นเต้นจัง

       ตอนเย็นสรุปได้ไปวิ่งสมใจแต่เป็นการวิ่งที่ไม่เหมือนกับทุกวัน คือ เปลี่ยนรูปแบบการวิ่งจากวิ่งเต็ม speed 20 นาที เป็นวิ่งเบาๆ 40 นาทีแทน มีงานวิจัยบอกว่าการวิ่งแบบนี้สมองจะได้รับออกซิเจนมากกว่า ปอดทำงานดีกว่า ช่วยเพิ่มสมาธิมากกว่าด้วย สรุปจัดไป 40 นาทีนิดๆ ได้ระยะ 7 Km ถือว่าเข้าใกล้ goal อีกขั้น 

Goal 

Meditation 40 hr.  >> ปัจจุบัน 9 hr.

Run 40 ครั้ง           >> ปัจจุบัน 4 ครั้ง 

อ่าน 10 paper        >> ปัจจุบัน 0 paper 

เขียน paper ออกมาให้ได้ (ด่วนสุดๆ)